ทัวร์ยุโรป 8 วัน 5 คืน เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ พิชิตยอดเขาจุงเฟรา

฿86,900

ทัวร์ยุโรป 8 วัน 5 คืน เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ พิชิตยอดเขาจุงเฟรา

เดินทาง มีนาคม – พฤษภาคม 2566

  • แฟรงก์เฟิร์ต
  • เข้าชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก
  • สตราสบูร์ก
  • รีคเวียร์
  • กอลมาร์
  • กรุงเบิร์น
  •  เจนีวา
  • โลซานน์
  •  เวเว่ย์
  • มองเทรอซ์
  • อิสระ ณ เมืองเซอร์แมท
  •  กรินเดอวาลด์
  • ยอดเขาจุงเฟรา
  • อินเทอร์ลาเกน
  • ซุก
  • ลูเซิร์น
  • ชาฟฟ์เฮาเซิน
  • น้ำตกไรน์
  • ซูริค
คุยกับแอดมิน หรือโทรเลย

ทัวร์ยุโรป 8 วัน 5 คืน เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ พิชิตยอดเขาจุงเฟรา

เดินทาง มีนาคม – พฤษภาคม 2566

  • แฟรงก์เฟิร์ต
  • เข้าชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก
  • สตราสบูร์ก
  • รีคเวียร์
  • กอลมาร์
  • กรุงเบิร์น
  •  เจนีวา
  • โลซานน์
  •  เวเว่ย์
  • มองเทรอซ์
  • อิสระ ณ เมืองเซอร์แมท
  •  กรินเดอวาลด์
  • ยอดเขาจุงเฟรา
  • อินเทอร์ลาเกน
  • ซุก
  • ลูเซิร์น
  • ชาฟฟ์เฮาเซิน
  • น้ำตกไรน์
  • ซูริค

อัตราค่าบริการ

วันเดินทางผู้ใหญ่พัก 2-3 ท่าน (ท่านละ)พักเดี่ยว
3-10 มีนาคม 256686,900.-10,900.-
11-18 เมษายน 256699,900.-11,900.-
27 เมษายน – 4 พฤษภาคม 256689,900.-11,900.-

ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปมัคคุเทศน์ท้องถิ่นและคนขับรถรวม 13 ยูโร/ท่าน/ทริป
ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปหัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย 24 ยูโร/ท่าน/ทริป

วันแรก กรุงเทพ 

  • 17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
  • 20.20 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 373

วันที่สอง แฟรงก์เฟิร์ต – ไฮเดลเบิร์ก – เข้าชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก – สตราสบูร์ก

  • 00.35 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบรอเปลี่ยนเครื่อง
  • 03.20 น. ออกเดินทางต่อสู่แฟรงค์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ EK 43

  • 07.35 น. ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั๋วโมงในวันที่ 29 ตุลาคม 2565) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำเที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) เป็นเมืองที่สุดแสนโรแมนติก ตั้งอยู่บริเวณฝั่งแม่น้ำเน็กคาร์ (Neckar River) อดีตเมืองศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญของเยอรมัน เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเยอรมัน ด้วยความสวยงามของเมืองนี้ทำให้มีนักท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปีต้องมาเยือนเมืองแห่งนี้ แล้วนำท่านผ่านชมย่านการค้าและแหล่งรวมของนักศึกษา
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • จากนั้นนำเข้าชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเชิงเขาเหนือแม่น้ำเน็กคาร์ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้โดยรอบ โดยตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายสีแดงซึ่งมีอายุกว่า 900 ปี ชมประตูคืนเดียว (Elisabeth’s Gate) ที่สร้างขึ้นโดยคำสั่งของพระเจ้าเฟเดอริก ที่สร้างเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดแด่ พระมเหสี อลิซาเบธ ซึ่งสร้างเสร็จภายในคืนเดียว จากนั้นชมถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความจุถึง 220,000 ลิตร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PLUS MONOPOLE METROPOLE หรือเทียบเท่า

วันที่สาม สตราสบูร์ก – รีคเวียร์ – กอลมาร์ – กรุงเบิร์น

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • เดินทางต่อสู่เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาคที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมด
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d’Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมา จนได้รับสมญานามว่า “Little Venice”  นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1234-1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน    1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน  ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BERN WESTSIDE หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ กรุงเบิร์น – เจนีวา – โลซานน์

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนีวา (Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล,แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) นำชมเมืองโลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL LAUSANNE BUSSIGNY หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า โลซานน์ – เวเว่ย์ – มองเทรอซ์ – อิสระ ณ เมืองเซอร์แมท – แทซ

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” (Pearls of the Swiss Riviera) ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบนำท่านถ่ายรูปคู่กับกับปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองแทซ (Teasch) เพื่อเดินทางสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีของโลก เซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส ให้ท่านอิสระ ณ เมืองเซอร์แมต – โดยมีหัวหน้าทัวร์ให้ข้อมูล หรือ คำแนะนำ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของตัวท่านเอง ให้ท่านอิสระเดินเที่ยวชมเมือง หรือ เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย หรือจะเลือกขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อสัมผัสกับความงดงามของยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Klien Matterhorn) ที่สูงถึง 4,478 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ณ จุดสูงที่สุดบริเวณไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น หรือท่านสามารถเข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่อยู่สูงที่สุดในสวิส หรือนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) เดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงาม โดยท่านสามารถเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn’s reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก ( โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ช่วงเวลาที่เดินทางไปชมอยู่ในช่วงกลางปี (พฤษภาคม – ตุลาคม) ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง) หลังจากนนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแทซ (Taesch)
  • ช่วงค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ELITE หรือเทียบเท่า

วันที่หก แทซ – กรินเดอวาลด์ – ยอดเขาจุงเฟรา – อินเทอร์ลาเกน

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
  • ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher  โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบแล้วยังจะช่วยให้ท่านลดเวลาลงกว่า 40 นาที เมื่อเทียบกับการขึ้นสู่ยอดเขาแบบเดิม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่   โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
  • พาท่านชมวิวที่ ลานสฟิงซ์ (Sphinx Terrace) จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม.และหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาและที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป นำคณะเดินทางลงจากยอดเขากลับสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) อิสระให้ท่านได้เดินชมความน่ารักและโรแมนติคของเมือง พร้อมเลือกซื้อนาฬิกาสวิสฯ จากร้านค้าชั้นนำ
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก METROPOLE หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด อินเทอร์ลาเกน – ซุก – ลูเซิร์น – ชาฟฟ์เฮาเซิน – น้ำตกไรน์ – ซูริค – สนามบิน

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) นำท่านชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald’s church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า  ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส   ตลอดแนวสะพาน  จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
  • ช่วงกลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป  นำท่านชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางเที่ยวเมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ  นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อิสระให้ท่านได้เดินชมเมือง ถ่ายรูปและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
  • 21.55 น.  ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ EK86

วันที่แปด ดูไบ – กรุงเทพฯ

  • 07.10 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
  • 09.30 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ EK372
  • 18.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
***โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาล***
เงื่อนไขการเดินทางเข้าออกจากประเทศไทย (Update 1 มิถุนายน 2565)
ผู้มีสัญชาติไทย
  •  เอกสารที่ต้องทำการเตรียมก่อนเดินทาง
    1. พาสปอร์ตตัวจริง (อายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน)
    2. เตรียมเอกสาร Vaccinated Certificate (ข้อมูลตรงตามพาสปอร์ต) หรือ เอกสาร International Vaccinated Certificate (สามารถลงทะเบียนขอออนไลน์ ได้ในแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือวัคซีนพาสปอร์ต *เล่มสีเหลือง* ที่ออกโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับวัคซีน
เงื่อนไขการให้บริการ
  • ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
    ***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่าภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
  • เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
  • หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
อัตราค่าบริการรวม
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ…ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
– เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
– เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
อัตราค่าบริการไม่รวม
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 25 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเสวิตเซอร์แลนด์รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (6,900.-บาท)
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (16 ยูโร/ต่อท่าน)
7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูโร/ต่อท่าน)
เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 45 วันก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็นทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ข้อมูลเบื้องต้นในการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าและการยื่นวีซ่า
  • การพิจารณาวีซ่าเป็นดุลยพินิจของสถานทูต มิใช่บริษัททัวร์ การเตรียมเอกสารที่ดีและถูกต้องจะช่วยให้การพิจารณา ของสถานทูตง่ายขึ้น
  • กรณีท่านใดต้องใช้พาสปอร์ตเดินทาง ช่วงระหว่างยื่นวีซ่า หรือ ก่อนเดินทางกับทางบริษัท ท่านต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าเพื่อวางแผนในการขอวีซ่าของท่าน ซึ่งบางสถานทูตใช้เวลาในการพิจารณาวีซ่าที่ค่อนข้างนานและอาจไม่สามรถดึงเล่มออกมาระหว่างการพิจารณาอนุมัติวีซ่าได้
  • สำหรับผู้เดินทางที่ศึกษาหรือทำงานอยู่ต่างประเทศ จะต้องดำเนินเรื่องการขอวีซ่าด้วยตนเองในประเทศที่ตนพำนักหรือศึกษาอยู่เท่านั้น
  • หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยนับวันเริ่มเดินทางออกนอกประเทศ หากนับแล้วต่ำกว่า 6 เดือน ผู้เดินทางต้องไปยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และกรุณาเตรียมหนังสือเดินทางเล่มเก่า ให้กับทางบริษัทด้วย เนื่องจากประวัติการเดินทางของท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการยื่นคำร้องขอวีซ่า และจำนวนหน้าหนังสือเดินทาง ต้องเหลือว่างสำหรับติดวีซ่าไม่ต่ำกว่า 3 หน้า
  • ท่านที่ใส่ปกหนังสือเดินทางกรุณาถอดออก หากมีการสูญหาย บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อปกหนังสือเดินทางนั้นๆ และพาสปอร์ต ถือเป็นหนังสือของทางราชการ ต้องไม่มีรอยฉีกขาด หรือ การขีดเขียน หรือ แต่งเติมใดๆ ในเล่ม
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่นั่งบนเครื่องบิน
  • ทางบริษัทได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว  หากท่านยกเลิกทัวร์ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,000 – 5,000 บาท  แล้วแต่สายการบินและช่วงเวลาเดินทาง
  • หากตั๋วเครื่องบินทำการออกแล้ว แต่ท่านไม่สามารถออกเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และรอ Refund จากทางสายการบิน ใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
  • นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกาย และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น
กรณียกเลิกการเดินทาง
  • กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่ายต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการแจ้งยกเลิกกับทางบริษัทอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ทางบริษัทไม่ขอรับยกเลิกการจอง ผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ)
  • กรณีนักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการ ตาม “ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563” ดังนี้
    4.1 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 45 วันก่อนการเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”
    4.2 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 15-29 วันก่อนเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินร้อยละ 50 ของค่าทัวร์ทั้งหมด ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”
    4.3 ยกเลิก น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
    ** การจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวตามข้อกำหนดด้านบน ซึ่งมีการหักเงินในบางส่วนนั้น เนื่องจากทางบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยวไปแล้ว เช่น การมัดจำที่นั่งบัตรโดยสารเครื่องบิน  การจองที่พัก  และ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ  เป็นต้น **
    4.4 การยกเลิกเดินทางกับกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการบินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมดที่ชำระแล้ว ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ
    ***ในกรณี มีเหตุให้ต้องยกเลิกการเดินทางที่บริษัทได้โฆษณาไว้  ซึ่งมิใช่ความผิดของบริษัทเอง  ทางบริษัทยินดีคืนเงินค่าบริการตามที่ลูกค้าได้ชำระมาแล้วหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยต้องมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทาง โปรดอ่านข้อความให้ถี่ถ้วนก่อนการจองทัวร์ทุกครั้ง เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง  *** 4.5 กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ ระบุ ไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
    4.6 เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
เงื่อนไขในการยกเลิก 
1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่ บริษัทฯกำหนดไว้ (20ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
2. กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่าน  ไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่ สถานทูตฯ เรียกเก็บ
3. กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบินหรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว)   ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
4. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ  ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
5. กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากปลอมแปลงหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
1. เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) ,ห้อง คู่ (Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกันและ บางโรงแรม  อาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน แต่อาจจะได้เป็น 1 เตียงใหญ่กับ 1 เตียงพับเสริม
2. โรงแรมในยุโรปส่วนใหญ่อาจจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ
3. กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade air) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็มบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
4. โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะ แตกต่างกัน
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น (อิตาลี)
  • ใช้เวลาทำการอนุมัติวีซ่าประมาณ 15 วันทำการ
  • ยื่นวีซ่าแสดงตนที่ศูนย์ยื่นวีซ่า VFS Global (จามจุรีสแควร์)
  • เอกสารกรุณาเตรียม 2 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
  • ในวันยื่นวีซ่าหนังสือเดินทางต้องนำส่งเข้าสถานทูต และระหว่างรอผลการอนุมัติวีซ่า ไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาได้
**หากท่านเคยโดนปฏิเสธการขอวีซ่ามาก่อน กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ทัวร์ให้รับทราบตั้งแต่ที่ท่านทำการจองทัวร์เข้ามา เพื่อทำการแก้ไขในการขอวีซ่าในครั้งนี้ มิฉะนั้นหากท่านไม่แจ้งให้ทราบ อาจจะมีผลเสียต่อการขอวีซ่าของท่านในครั้งนี้**
**ลูกค้ากรุณาอย่ายึดติดกับการยื่นขอวีซ่าในอดีตเพราะสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎและเอกสารการยื่นอยู่เรื่อย ๆ**
  1. หนังสือเดินทางประเทศไทย (Thailand Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ  และหนังสือเดินทางจะต้องไม่ชำรุด (หนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย)
    ***ในกรณีที่ถือพาสปอร์ต สัญชาติไทย แต่พำนักอยู่ต่างประเทศ, ทำงานอยู่ต่างประเทศ หรือนักเรียน นักศึกษาศึกษาอยู่ต่างประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทให้ทราบทันที เพราะการยื่นขอวีซ่าจะมีเงื่อนไข และ ข้อกำหนดของทางสถานทูตต้องการเพิ่มเติม และ บางสถานทูตอาจไม่สามารถยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้ ข้อกำหนดนี้รวมไปถึงผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติด้วย***
  2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 3.5×4 CM. จำนวน 2 ใบ
    ***ความยาวใบหน้าต้องมีเนื้อที่ในรูปถ่าย 70-80% ของพื้นที่ พื้นหลังสีขาวเท่านั้น ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน รวบผมให้เห็นหู เห็นคิ้ว ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ รูปไม่เลอะหมึกและไม่มีร่องรอยชำรุด ***
  3. หลักฐานการทำงาน
    -เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD)ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า(พค.0403)
    -กิจการไม่จดทะเบียน จดหมายชี้แจงการทำงาน พร้อมเอกสารประกอบ เช่น รูปถ่ายร้าน สัญญาเช่าที่ โฉนดที่ดิน เป็นตัน
    -เป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯระบุตำแหน่ง,เงินเดือน,วันเริ่มทำงาน,วันที่ลาพักร้อน (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
    -นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองการเรียนที่ออกจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่  (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ตใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
  4. หลักฐานการเงิน
    -กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ธรรมดาของธนาคารทั่วไป ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประทับจากธนาคาร ทางสถานทูตจะไม่รับ Bank Statement ที่ปริ้นเองจาก Internet (รบกวนลูกค้าทำรายการเดินบัญชีโดยการฝากหรือถอน ก่อน 1-2 วัน แล้ว ค่อยขอ Statement เพื่อให้อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า)
    -กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประกับจากธนาคาร อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า (ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) และต้องมีหน้า Passport ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย พร้อมหนังสือชี้แจงออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ (Sponsor letter)
    -กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง แต่บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประกับจากธนาคาร อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า (ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) หรือ หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank certificate) และต้องแนบหนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD) หรือสำเนาใบทะเบียนการค้า (พ.ค.0403) พร้อมหนังสือชี้แจงออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ (Sponsor letter)
    -**Bank Statement จะต้องสะกดชื่อ-นามสกุลให้ตรงกับพาสปอร์ต แสดงเลขที่บัญชีครบทุกตัว และจะต้องมีแสดงทั้งหมดในทุก ๆ หน้า
    -***Bank Statement ของธนาคารกรุงเทพ ถ้าธนาคารออกมาเป็นรูปแบบที่เป็นตัวครึ่งกระดาษ A4 ไม่สามารถใช้ยื่นได้ รบกวนแจ้งธนาคารให้ออกเป็นรูปแบบฉบับเด็ม
    -**สถานทูตไม่รับพิจารณา Bank Statement ที่ปริ้นจากอินเตอร์เน็ต หรือ Bank Statement ที่ออกจากธนาคารแต่ไม่มีตราประทับ , บัญชีติดลบ บัญชีกระแสรายวัน พันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุน และสลากออมสิน**
  5. เอกสารส่วนตัว
    -สำเนาทะเบียนบ้าน
    -บัตรประชาชน
    -สูติบัตร(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
    -ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า/มรณะบัตร(ถ้ามี)
    -ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยน)
  6. กรณีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมบิดา มารดา
    -หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา)พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
    -หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย
    -หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก จากอำเภอต้นสังกัด พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดา
    -กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
    *** กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดาและมารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า
    *** ในวันยื่นวีซ่ากรุณาถือเอกสารตัวจริงต่างๆ เช่น ทะเบียนพาณิชย์ DBD สูติบัตร ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล เป็นต้น พร้อมสมุดบัญชีอัพเดทไม่เกิน 15 วันก่อนยื่นวีซ่า ***
    เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม

Main Menu