fbpx

ทัวร์ยุโรป 9 วัน 6 คืน เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี พิชิตยอดเขาเก่าแก่ที่สุดในยุโรป

฿82,900

ร้านค้า : Admin

ทัวร์ยุโรป 9 วัน 6 คืน เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี พิชิตยอดเขาเก่าแก่ที่สุดในยุโรป

เดิยทาง มกราคม – มิถุนายน 2566

  • พิเศษ !! พิชิต 2 เขาสวิตเซอร์แลนด์
  • มิวนิค
  • จัตุรัสมาเรียนพลาสท์
  • ซาลส์บวร์ก
  •  ฮัลสตัท
  • ฟุสเซ่น
  • เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์
  • ทิทิเซ่
  • ล่องเรือชมความงามป่าดำ
  • น้ำตกไรน์
  • กรุงเบิร์น
  • ลูเซิร์น
  •  ยอดเขาริกิ
  • ซุก
  • แทซ
  • เซอร์แมต
  • ยอดเขากรอนเนอร์แกรต -มิลาน
  • มิลาน
คุยกับแอดมิน หรือโทรเลย
Compare

ทัวร์ยุโรป 9 วัน 6 คืน เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี พิชิตยอดเขาเก่าแก่ที่สุดในยุโรป

เดิยทาง มกราคม – มิถุนายน 2566

  • พิเศษ !! พิชิต 2 เขาสวิตเซอร์แลนด์
  • มิวนิค
  • จัตุรัสมาเรียนพลาสท์
  • ซาลส์บวร์ก
  •  ฮัลสตัท
  • ฟุสเซ่น
  • เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์
  • ทิทิเซ่
  • ล่องเรือชมความงามป่าดำ
  • น้ำตกไรน์
  • กรุงเบิร์น
  • ลูเซิร์น
  •  ยอดเขาริกิ
  • ซุก
  • แทซ
  • เซอร์แมต
  • ยอดเขากรอนเนอร์แกรต -มิลาน
  • มิลาน

อัตราค่าบริการ

วันเดินทางผู้ใหญ่พัก 2-3 ท่าน (ท่านละ)พักเดี่ยว
28 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 6682,900.-9,900.-
18-26 มีนาคม 256685,900.-9,900.-
11-19 เมษายน 256699,900.-14,900.-
23 เมษายน – 1 พฤษภาคม 6695,900.-14,900.-
29 เมษายน – 7 พฤษภาคม93,900.-14,900.-
17-25 มิถุนายน93,900.-14,900.-

ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปมัคคุเทศน์ท้องถิ่นและคนขับรถรวม 14 ยูโร/ท่าน/ทริป
ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปหัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย 27 ยูโร/ท่าน/ทริป

วันแรก กรุงเทพ – สนามบินสิงคโปร์

  • 17.0 0 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ ประตู 5 แถว K  พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
  • 20.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบิน SQ713
  • 23.30 น. เดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ รอเปลี่ยนเครื่อง

วันที่สอง สนามบินสิงคโปร์ – มิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ – ซาลส์บวร์ก

  • 00.25 น. ออกเดินทางต่อสู่สนามบินมิวนิค ด้วยเที่ยวบิน SQ328
  • 06.40 น. ถึงสนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์  โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์
  • นำท่านถ่ายรูปด้านนอกที่ BMW Welt เป็นที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่กว่า 25,000 ตรม. ตั้งอยู่ติดกับอาคารสำนักงานใหญ่ของ BMW ท่านจะได้ชมรถยนต์ในเครือของ BMW โดยพื้นที่ใน BMW Welt จะถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่างๆในการจัดแสดงรถยนต์ BMW โมเดลปัจจุบันทุกซีรีย์, โซนมอเตอร์ไซค์ BMW, โซน MINI Exhibition, โซน Rolls-Royce

  • นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
  • หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน  นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE SALZBURG CITY หรือเทียบเท่า

วันที่สาม ซาลส์บวร์ก – ฮัลสตัท – ฟุสเซ่น

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
  • ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาเทร้าท์)
  • จากนั้นเดินทางสู่เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HIRSCH หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ฟุสเซ่น – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – ทิทิเซ่ – ล่องเรือชมความงามป่าดำ

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
  • นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์  ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้  ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน **
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่(Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน นำท่านล่องเรือชมทัศนียภาพของป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู (กรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินให้ท่านละ 5 EUR และเปลี่ยนโปรแกรมเป็นเดินเล่นริมทะเลสาบแทน)
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MARITIM TITISEE หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า ทิทิเซ่ – น้ำตกไรน์ – กรุงเบิร์น – ลูเซิร์น

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
  • จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป  นำท่านชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
  • หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน    1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน  ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า
  • ช่วงกลางวัน อิสระอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
  • เดินทางต่อสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชม ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน
  • ช่วงค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS STYLES LUZERN CITY หรือเทียบเท่า

วันที่หก ลูเซิร์น – ยอดเขาริกิ – ซุก – แทซ

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • จากนั้นนั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา(Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ชมวิวแบบพาโนรามาโอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบ Luzern และ Zug
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
  • เดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองแทซ (Taecsh)
  • ช่วงค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ELITE หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด แทซ – เซอร์แมต – ยอดเขากรอนเนอร์แกรต -มิลาน

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
  • นำท่านสู่สถานีรถไฟเมืองแทซ เพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองเซอร์แมต (Zermatt) นำท่านนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) ทำท่านเดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่สวยงาม นำท่านเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn’s reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก ( โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง)
  • ช่วงกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  • จากนั้นเดินทางข้ามพรหมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี สู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นำท่านชม แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
  • ช่วงค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
  • ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN MILAN NORD ZARA HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่แปด มิลาน – สนามบิน

  • ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
  • 12.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ SQ355

วันที่ 9 สนามบินสิงคโปร์ – กรุงเทพฯ

  • 07.35 น. เดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ รอเปลี่ยนเครื่อง
  • 12.50 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ SQ710 (สำหรับคณะที่เดินทาง 18 มีนาคมและ 17 มิถุนายน จะออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน SQ708 เวลา 09.45น. และไปถึงกรุงเทพเวลา 11.10 น.)
  • 14.20 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
***โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาล***
เงื่อนไขการเดินทางเข้าออกจากประเทศไทย (Update 1 มิถุนายน 2565)
ผู้มีสัญชาติไทย
  •  เอกสารที่ต้องทำการเตรียมก่อนเดินทาง
    1. พาสปอร์ตตัวจริง (อายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน)
    2. เตรียมเอกสาร Vaccinated Certificate (ข้อมูลตรงตามพาสปอร์ต) หรือ เอกสาร International Vaccinated Certificate (สามารถลงทะเบียนขอออนไลน์ ได้ในแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือวัคซีนพาสปอร์ต *เล่มสีเหลือง* ที่ออกโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับวัคซีน
เงื่อนไขการให้บริการ
  • ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
    ***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่าภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
  • เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
  • หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
อัตราค่าบริการรวม
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ…ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
– เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
– เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
อัตราค่าบริการไม่รวม
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 25 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเสวิตเซอร์แลนด์รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (6,900.-บาท)
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (16 ยูโร/ต่อท่าน)
7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูโร/ต่อท่าน)
เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 45 วันก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็นทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ข้อมูลเบื้องต้นในการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าและการยื่นวีซ่า
  • การพิจารณาวีซ่าเป็นดุลยพินิจของสถานทูต มิใช่บริษัททัวร์ การเตรียมเอกสารที่ดีและถูกต้องจะช่วยให้การพิจารณา ของสถานทูตง่ายขึ้น
  • กรณีท่านใดต้องใช้พาสปอร์ตเดินทาง ช่วงระหว่างยื่นวีซ่า หรือ ก่อนเดินทางกับทางบริษัท ท่านต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าเพื่อวางแผนในการขอวีซ่าของท่าน ซึ่งบางสถานทูตใช้เวลาในการพิจารณาวีซ่าที่ค่อนข้างนานและอาจไม่สามรถดึงเล่มออกมาระหว่างการพิจารณาอนุมัติวีซ่าได้
  • สำหรับผู้เดินทางที่ศึกษาหรือทำงานอยู่ต่างประเทศ จะต้องดำเนินเรื่องการขอวีซ่าด้วยตนเองในประเทศที่ตนพำนักหรือศึกษาอยู่เท่านั้น
  • หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยนับวันเริ่มเดินทางออกนอกประเทศ หากนับแล้วต่ำกว่า 6 เดือน ผู้เดินทางต้องไปยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และกรุณาเตรียมหนังสือเดินทางเล่มเก่า ให้กับทางบริษัทด้วย เนื่องจากประวัติการเดินทางของท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการยื่นคำร้องขอวีซ่า และจำนวนหน้าหนังสือเดินทาง ต้องเหลือว่างสำหรับติดวีซ่าไม่ต่ำกว่า 3 หน้า
  • ท่านที่ใส่ปกหนังสือเดินทางกรุณาถอดออก หากมีการสูญหาย บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อปกหนังสือเดินทางนั้นๆ และพาสปอร์ต ถือเป็นหนังสือของทางราชการ ต้องไม่มีรอยฉีกขาด หรือ การขีดเขียน หรือ แต่งเติมใดๆ ในเล่ม
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่นั่งบนเครื่องบิน
  • ทางบริษัทได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว  หากท่านยกเลิกทัวร์ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,000 – 5,000 บาท  แล้วแต่สายการบินและช่วงเวลาเดินทาง
  • หากตั๋วเครื่องบินทำการออกแล้ว แต่ท่านไม่สามารถออกเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และรอ Refund จากทางสายการบิน ใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
  • นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกาย และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น
กรณียกเลิกการเดินทาง
  • กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่ายต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการแจ้งยกเลิกกับทางบริษัทอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ทางบริษัทไม่ขอรับยกเลิกการจอง ผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ)
  • กรณีนักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือ มาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการ ตาม “ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563” ดังนี้
    4.1 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 45 วันก่อนการเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”
    4.2 ยกเลิก ไม่น้อยกว่า 15-29 วันก่อนเดินทาง (ไม่นับวันเดินทาง) คืนเงินร้อยละ 50 ของค่าทัวร์ทั้งหมด ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อการเตรียมการนำเที่ยว ทั้งหมด เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่อง ค่าบริการแลนด์ ต่างประเทศ เป็นต้น”
    4.3 ยกเลิก น้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
    ** การจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวตามข้อกำหนดด้านบน ซึ่งมีการหักเงินในบางส่วนนั้น เนื่องจากทางบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยวไปแล้ว เช่น การมัดจำที่นั่งบัตรโดยสารเครื่องบิน  การจองที่พัก  และ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ  เป็นต้น **
    4.4 การยกเลิกเดินทางกับกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการบินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมดที่ชำระแล้ว ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ
    ***ในกรณี มีเหตุให้ต้องยกเลิกการเดินทางที่บริษัทได้โฆษณาไว้  ซึ่งมิใช่ความผิดของบริษัทเอง  ทางบริษัทยินดีคืนเงินค่าบริการตามที่ลูกค้าได้ชำระมาแล้วหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยต้องมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทาง โปรดอ่านข้อความให้ถี่ถ้วนก่อนการจองทัวร์ทุกครั้ง เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง  *** 4.5 กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ ระบุ ไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
    4.6 เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
เงื่อนไขในการยกเลิก 
1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่ บริษัทฯกำหนดไว้ (20ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
2. กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่าน  ไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่ สถานทูตฯ เรียกเก็บ
3. กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบินหรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว)   ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
4. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ  ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
5. กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากปลอมแปลงหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
1. เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) ,ห้อง คู่ (Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกันและ บางโรงแรม  อาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน แต่อาจจะได้เป็น 1 เตียงใหญ่กับ 1 เตียงพับเสริม
2. โรงแรมในยุโรปส่วนใหญ่อาจจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ
3. กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade air) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็มบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
4. โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะ แตกต่างกัน
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น (อิตาลี)
  • ใช้เวลาทำการอนุมัติวีซ่าประมาณ 15 วันทำการ
  • ยื่นวีซ่าแสดงตนที่ศูนย์ยื่นวีซ่า VFS Global (จามจุรีสแควร์)
  • เอกสารกรุณาเตรียม 2 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
  • ในวันยื่นวีซ่าหนังสือเดินทางต้องนำส่งเข้าสถานทูต และระหว่างรอผลการอนุมัติวีซ่า ไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาได้
**หากท่านเคยโดนปฏิเสธการขอวีซ่ามาก่อน กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ทัวร์ให้รับทราบตั้งแต่ที่ท่านทำการจองทัวร์เข้ามา เพื่อทำการแก้ไขในการขอวีซ่าในครั้งนี้ มิฉะนั้นหากท่านไม่แจ้งให้ทราบ อาจจะมีผลเสียต่อการขอวีซ่าของท่านในครั้งนี้**
**ลูกค้ากรุณาอย่ายึดติดกับการยื่นขอวีซ่าในอดีตเพราะสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎและเอกสารการยื่นอยู่เรื่อย ๆ**
  1. หนังสือเดินทางประเทศไทย (Thailand Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ  และหนังสือเดินทางจะต้องไม่ชำรุด (หนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย)
    ***ในกรณีที่ถือพาสปอร์ต สัญชาติไทย แต่พำนักอยู่ต่างประเทศ, ทำงานอยู่ต่างประเทศ หรือนักเรียน นักศึกษาศึกษาอยู่ต่างประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทให้ทราบทันที เพราะการยื่นขอวีซ่าจะมีเงื่อนไข และ ข้อกำหนดของทางสถานทูตต้องการเพิ่มเติม และ บางสถานทูตอาจไม่สามารถยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้ ข้อกำหนดนี้รวมไปถึงผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติด้วย***
  2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 3.5×4 CM. จำนวน 2 ใบ
    ***ความยาวใบหน้าต้องมีเนื้อที่ในรูปถ่าย 70-80% ของพื้นที่ พื้นหลังสีขาวเท่านั้น ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน รวบผมให้เห็นหู เห็นคิ้ว ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ รูปไม่เลอะหมึกและไม่มีร่องรอยชำรุด ***
  3. หลักฐานการทำงาน
    -เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD)ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า(พค.0403)
    -กิจการไม่จดทะเบียน จดหมายชี้แจงการทำงาน พร้อมเอกสารประกอบ เช่น รูปถ่ายร้าน สัญญาเช่าที่ โฉนดที่ดิน เป็นตัน
    -เป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯระบุตำแหน่ง,เงินเดือน,วันเริ่มทำงาน,วันที่ลาพักร้อน (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
    -นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองการเรียนที่ออกจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่  (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ตใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
  4. หลักฐานการเงิน
    -กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ธรรมดาของธนาคารทั่วไป ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประทับจากธนาคาร ทางสถานทูตจะไม่รับ Bank Statement ที่ปริ้นเองจาก Internet (รบกวนลูกค้าทำรายการเดินบัญชีโดยการฝากหรือถอน ก่อน 1-2 วัน แล้ว ค่อยขอ Statement เพื่อให้อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า)
    -กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประกับจากธนาคาร อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า (ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) และต้องมีหน้า Passport ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย พร้อมหนังสือชี้แจงออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ (Sponsor letter)
    -กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง แต่บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประกับจากธนาคาร อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า (ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) หรือ หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank certificate) และต้องแนบหนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD) หรือสำเนาใบทะเบียนการค้า (พ.ค.0403) พร้อมหนังสือชี้แจงออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ (Sponsor letter)
    -**Bank Statement จะต้องสะกดชื่อ-นามสกุลให้ตรงกับพาสปอร์ต แสดงเลขที่บัญชีครบทุกตัว และจะต้องมีแสดงทั้งหมดในทุก ๆ หน้า
    -***Bank Statement ของธนาคารกรุงเทพ ถ้าธนาคารออกมาเป็นรูปแบบที่เป็นตัวครึ่งกระดาษ A4 ไม่สามารถใช้ยื่นได้ รบกวนแจ้งธนาคารให้ออกเป็นรูปแบบฉบับเด็ม
    -**สถานทูตไม่รับพิจารณา Bank Statement ที่ปริ้นจากอินเตอร์เน็ต หรือ Bank Statement ที่ออกจากธนาคารแต่ไม่มีตราประทับ , บัญชีติดลบ บัญชีกระแสรายวัน พันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุน และสลากออมสิน**
  5. เอกสารส่วนตัว
    -สำเนาทะเบียนบ้าน
    -บัตรประชาชน
    -สูติบัตร(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
    -ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า/มรณะบัตร(ถ้ามี)
    -ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยน)
  6. กรณีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมบิดา มารดา
    -หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา)พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
    -หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย
    -หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก จากอำเภอต้นสังกัด พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดา
    -กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
    *** กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดาและมารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า
    *** ในวันยื่นวีซ่ากรุณาถือเอกสารตัวจริงต่างๆ เช่น ทะเบียนพาณิชย์ DBD สูติบัตร ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล เป็นต้น พร้อมสมุดบัญชีอัพเดทไม่เกิน 15 วันก่อนยื่นวีซ่า ***
    เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม

Vendor Information

  • Address:
  • No ratings found yet!
X

Main Menu